เมื่อลูกเริ่มอาละวาด

29
99367

สวัสดีค่าาาา หายไปนานเลยล่ะ ช่วงนี้นิหน่ายุ่งๆค่ะ Project มากมายหลายอย่าง
มีหลายเรื่องอยากมาเขียน Blog แต่ก็ไม่มีเวลาเลย แต่ยังไงก็ตอบทุกคอมเม้นท์ที่ส่งมา
ใครมีอะไรอยากแชร์ คับข้องใจ ส่งมาคุยกันได้ตลอดนะคะ ^^

วันนี้อยากมาร่วมแชร์ประสบการณ์ บวกกับอยากบ่นค่ะ 5555 คืออัดอั้นมาก คือเดี๋ยวนี้
พอลูกเริ่มโต รู้สึกปัญหาเริ่มเยอะ นึกคิดถึงเวลาแพทเป็นเด็กตัวเล็กๆ ไม่หือไม่อือ เชื่อว่า
แม่ๆหลายๆคนรู้สึกแบบนี้ จริงๆน้องแพทไม่ได้เลี้ยงยากมากมายอะไรหรอกค่ะ แต่เมื่อก่อน
เค้าเลี้ยงง่ายไง พอเริ่มเป็นตัวของตัวเอง เริ่มมีถาม มีเถียง มีตัดสินใจอะไรเองก็เริ่มยาก

ช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา นิหน่าเจอปัญหานึงค่ะ คือน้องแพทโวยวาย คือเวลาไม่ได้อะไร
จะหงุดหงิดโวยวายมาก ไม่ได้ในที่นี้ไม่ใช่ของเล่นนะคะ แต่แบบ ไม่อยากอาบน้ำ ไม่อยาก
กินนม ไม่อยากกินข้าว ซึ่งบางทีพี่เลี้ยงรับมือไม่ไหว ก็ต้องพาไปเดินเล่นเพื่อเลี่ยงสถานการณ์
แต่ถ้าปู่ย่าตายายอยู่ก็จะแบบ ตามใจเค้าเถอะ ไปบังคับทำไม ซึ่งเรารู้สึกว่า มันเริ่มมากจน
ปล่อยไว้ไม่ได้ละ นิหน่าก็ไปปรึกษาคุณหมอค่ะ ท่ามกลางเสียงคนรอบข้างว่า พาไปทำไม 55

วันพาไปหาคุณหมอนี่สุดยอดค่ะ คุณชายแกอาละวาดลั่นวอร์ด เพราะไม่อยากวัดไข้และวัด
รอบศรีษะ คือกรี๊ดแบบ นิหน่าปล่อยให้กรี๊ด ยอมรับว่าไม่น่ารัก แต่อยากให้คุณหมอเห็นว่า
เมื่อฮีอาละวาดแล้วจะเป็นยังไง คุณหมอเสาวภาได้เห็นก็ถามว่า เวลาน้องร้องไห้เอาแต่ใจ
พี่เลี้ยงทำยังไง พี่เลี้ยงทำยังไง แม่ทำยังไง

นิหน่าบอกไปว่า ถ้านิหน่าจะปล่อยให้ร้อง จนเงียบแล้วค่อยมาคุย ส่วนพี่เลี้ยงบอกจะ
เบี่ยงเบนความสนใจ พาน้องไปเล่นที่อื่นจนลืมไปเอง คุณหมอบอกว่า การเบี่ยงเบน
เหมือนจะทำให้ปัญหาตรงหน้ามันจบ แต่เด็กไม่เข้าใจ และไม่จำว่านี่คือพฤติกรรมที่
เราไม่ยอมรับและไม่อยากให้เกิดขึ้น คุณหมอบอกค่ะว่า ให้เรานั่งลงบอกลูกดีๆว่า
ตอนนี้หนูกำลังโกรธ เอาไว้หายโกรธหยุดร้องไห้แล้วค่อยมาคุยกันนะคะ แล้วลุกขึ้น
เอามือกดอก และไม่มองตาเค้า (ถ้ามองเราใจอ่อนแน่ๆ) ทีนี้เค้าจะมาเกาะเรา ร้องหนัก
เราก็ต้องยืนยันคำเดิม ไม่ปลอบไม่อะไรทั้งสิ้น ไม่ต้องพูดกันยืดยาว

เชื่อไหมคะ ว่าแปปเดียวแพทหยุดกรี๊ด หยุดร้อง คุณหมอก็ให้เรานั่งลง ชมลูกว่า
“ดีมากครับ แพทหยุดร้องแล้ว เรามาคุยกันดีๆนะ” โดยยังไม่ต้องอุ้มขึ้นมา ถ้าร้องอีก
กลับยืนขึ้นใหม่และพูดคำเดิมว่า “หนูยังไม่หยุดร้อง หยุดร้องแล้วค่อยคุยกันนะครับ”

ลุกๆนั่งๆแบบนี้สักแป๊ป กลายว่าแพทก็หยุดร้อง และเราก็อธิบายเค้าว่า เราต้องวัดไข้
เพราะจะได้รู้ว่าหนูไม่สบายหรือเปล่า วัดแป๊ปเดียวก็เสร็จแล้ว เอาละ เรามาเล่นของเล่น
กันดีกว่า แล้วชวนไปเล่น…

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะ หลังจากนั้นนิหน่ากลับมาลองใช้วิธีนี้กับลูก และบอกพี่เลี้ยงแพทว่า
ต้องทำแบบเดียวกัน หลังๆแพทหายอาการเอาแต่ใจ ร้องไห้หงุดหงิดไปเยอะเลย
นิหน่าเชื่อว่าเด็กก็เหมือนผ้าขาวนะคะ จริงๆพวกคำพูด หรือความหงุดหงิด เป็นเพราะ
เค้ายังไม่สามารถสื่อสารได้เต็มที่ บางทีเค้าอยากบอกแต่บอกไม่ได้ เราเป็นผู้ใหญ่ควร
แก้ไขสถานการณ์ แนะนำเค้าให้รู้จักอารมณ์ต่างๆของตัวเอง และตัวเราก็ต้องใจเย็นด้วย
บางทีนี่เราก็อยากจะกรี๊ดใส่ลูกนะ แต่ก็ต้องอดทนไว้ และพูดกับเค้าดีๆ

คุณแม่บ้านไหนเจอแบบนี้บ้างคะ แก้ปัญหากันยังไง ลองแชร์ประสบการณ์กันบ้างนะคะ

xxx

นิหน่า

29 ความคิดเห็น

  1. ใช้เวลานานมั้ยค่ะ เคยทำวิธีนี้เหมือนกันค่ะ ลูกยิ่งร้องมากขึ้นเรื่อยๆ

    • เคยนานสุด30นาที แต่พอเค้าหยุดเราต้องรีบไปหา ไม่ใช่โอ๋นะคะ แต่อธิบายให้เข้าใจค่ะ

  2. คุณนิหน่าคะน้องแพทเคยขว้างของลงพื้นหรือเทน้ำลงพื้นไหมคะถ้าเคยคุณนิหน่าทำยังไงคะ

    • เคยค่ะ บอกเค้าว่าให้เอาผ้ามาเช็ดเอง หรือถ้าขว้างของ จะให้ไปหยิบขึ้นมา แล้ววางลงไปดีๆใหม่ค่ะ แล้วสอนว่า ขว้างแบบนี้ของจะพัง ต้องวางดีๆค่ะ

  3. คุณนิหน่าคะรบกวนขอข้อมูลที่พักที่ปราณบุรีได้มั้ยค่ะ ที่คุณเคยพาน้องแพทไปเที่ยวตอนได้ 3 เดือนอะค่ะ สวยมั้ย ลูกเล่นน้ำได้รึป่าว ตอนนี้น้องได้ 7 เดือนแล้วค่ะ เลยอยากพาไปเที่ยวทะเลในวันหยุดยาวนี้ ขอเบอร์โทรที่พักด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ อ่่อ !! รบกวนอีกอย่างค่ะ อาหารของน้องที่ฟรีสไว้อะค่ะ เวลาเดินทางไปเที่ยวค้่างคืนทำยังไงไปคะ ช่วยบอกวิธีหน่อยค่ะ

    • ตอนนั้นไปวิลล่ามารอคค่ะ ส่วนอาหารจะเอาแบบขวดสำเร็จรูปไปค่ะ

  4. รบกวนสอบถามนิดนึงนะค่ะ ตอนนี้พิ้งมีปัญหาคือลูกไม่ยอมเข้าเต้าเลย มันเริ่มต้นผิดตั้งแต่ที่โรงพยาบาล ให้น้องกินนมผงจากขวดเพราะน้ำนมยังไม่มา กินนมผงอยู่2อาทิตย์ นมก็เริ่มมา (ระยะเวลาที่น้องกินนมผงพิ้งจะปั๊มนมทุก2-3ช.ม.)ตอนนี้พิ้งปั๊มอย่างเดียวเลยค่ะ น้องไม่ได้เข้าเต้าแบบนี้น้ำนมพิ้งจะหมด หรือลดลงไหมค่ะ จะพอมีให้น้องกินถึง2ขวบไหมค่ะ ถ้าปั๊มอย่างเดียวไม่มีการเข้าเต้า รบกวนพี่นิหน่าด้วยนะค่ะ

    • ปั๊มอย่างเดียวถ้ามีวินัยจริงๆมีนมพอแน่ๆค่ะ อดทนสู้ๆนะคะ เหนือยหน่อย

  5. แต๊งค์ 1.7ขวบก็เริ่มจะเป็นละค่ะ ไม่ถึงขั้นกรี๊ดนะคะ แต่ร้องไห้หนักมาก อย่างเวลาฟังเพลงแล้วเพลงดับก็ร้อง เล่นอะไรหมุนๆ(แกชอบอะไรที่หมุนได้อ่ะค่ะ ล้อรถของเล่น ขวด ห่วง อะไรประมาณนี้) ถ้าหยุดหมุนก็ร้อง หรือเวลาพูดอะไรผิด เช่น ช้างร้องแปล๊นๆ ก็ร้องหนักมาก กลุ้มใจเลยค่ะ

    • น่าจะเป็นวัยน่ะค่ะต้องบอกให้หยุดร้อง แม่ถึงจะคุยด้วย

  6. ลูกชายก็เป็นค่ะ ใช้วิธีนี้เหมือนกันแต่พอน้องหยุดร้อง แล้วแม่จะอธิบายจะชม ลูกจะเหวี่ยงใส่เลยค่ะ เอามือปิดปากแม่ไม่ให้พูด ก็เปลี่ยนมาลูบหัวก่อน กอดกันก่อน พอพูดก็โวยวายไม่ให้พูดอีก แล้วแบบนี้ลูกจะเข้าใจมั้ยค่ะ

  7. คือยังดีที่น้องแพทพูดแล้วยังสื่อสารรู้เรื่องแต่ลูกชายอายุ2ขวบ1เดือนยังไม่ยอมพูดเลยคะตอนนี้เวลาไม่ได้ดั่งใจอาละวาดหนักมากทำร้ายพ่อและแม่ด้วยใช้เล็บจิกจนหน้าเป็นแผลเลยน่ากลัวมากเรากลัวว่าถ้าเค้าไปเจอเพื่อนจะไปทำแบบนี้กะเพื่อนหรือคนอื่นเครียดมากเลยคะ

    • ถ้าตามที่หมอแนะนำก็จับมือเค้าไว้แล้วพูดว่า ไม่ทำแบบนี้ แม่เจ็บ เสียงจริงจังค่ะ … ทำอีกก็จับมืออีก นิหน่าเองก็ใช้วิธีนี้ ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้างเหมือนกันค่ะ-“-

  8. คือลูกเวลาจะเอาของจากลูกพี่ลูกน้อง พอไม่ได้เค้าก็จะกัดเลยนะค่ะ ไม่รู้จะทำไงดี เพราะที่บ้านอยู่กันเด็กเยอะนะค่ะ มีหลานๆด้วย อายุไล่เลี่ยกัน ลูกชายอายุ 1 ขวบ 11 เดือนนะค่ะ พอเอาเข้ามุมก็ร้องไห้แต่ช่วงแรกดีขึ้นนะค่ะตอนนี้เหมือนเริ่มจะกลับมาอีกแล้วค่ะ

  9. เจอเหมือนกันเลยคะ เครียดมาก ยอมรับว่าบางครั้งแม่ก็สติแตก ปรี๊ดบ้างคะ แต่พยายามบอกตัวเองว่า ต้องไม่หลุดอีก ทุกวันนี้ เวลาน้องอาละวาดก็ใช้วิธีแบบคุณหมอแนะนำ แต่ สงสัยว่า เมื่อไหร่เค้าจะหายจากการอาละวาด ถามว่าบ่อยไหม ไม่บ่อยคะ แต่พอเค้าเอาเรื่องขึ้นมาก็จะทำร้ายคนอื่น พ่นน้ำลายใส่บ้าง มีเพื่อนบอกว่า ให้ตี ต้องเอาลูกให้อยู่ แต่เราคุยกันพ่อแม่ว่าเราไม่เลือกวิธีนั้นคะ ยังคิดว่า วิธีพูดคุย น่าจะดีกว่า

    • เวลาจะปรี๊ดจริงๆนิหน่าขอเดินหนีไปก่อนค่ะ555 สงบสติอารมณ์ก่อน

      • ขอบคุณอีกครั้งคะ จะนำไปใช้และเตือนตัวเอง ทุกวันนี้ ให้ลูกเป็นฝ่ายเดินไปเข้ามุม เค้าเดินไปนั่งเก้าอี้ประจำ ถ้าสำนึกจะขอโทษ บางครั้งใช้เวลานานกว่าจะหลุดคำขอโทษออกมาคะ ไม่รู้ว่าได้ผลไหม เพราะเค้าก็ยังทำอีก….

  10. เคยใช้วิธีปล่อยให้ลูกร้องนะคะ ลูกชาย1ขวบ3เดือน เค้าไม่มีทีท่าว่าจะหยุดร้อง เห็นท่าไม่ดีเลยเดินมาอุ้มและชี้ดูนก ดูเครื่องบิน สักพักเค้าก้เงียบค่ะ กลัวว่าถ้าปล่อยให้ร้องเค้าจะเปนเด็กเอาแต่ใจ อันนี้แม่คิดเอาเองนะคะ เวลาลูกร้องเคยรู้สึกท้อใจ จนแทบอยากจะไปจ้างคนอื่นเลี้ยงก้มีนะคะ แต่ทำใจไม่ได้เลยคิดใหม่ ด้วยความรักทั้งหมดที่มีให้ลูกเราจะสู้ไปด้วยกัน แม่พยายามไม่โมโห ยิ้มให้เค้าเยอะๆเล่นกับเค้าพูดกันเล่านิทาน อย่างที่คุนนิหน่าพูดค่ะ โลกเค้ามีแค่พ่อกับแม่ถ้าเราดุเค้าคงเสียใจมาก ค่อยๆปรับค่ะ ปรับทุกวันจนเดี๋ยวนี้ลูกไม่ค่อยร้องและเป็นเด็กอารมย์ดีมากค่ะ

  11. ลูกชายเพิ่ง 17 เดือน เริ่มร้องไห้ ร้องกรี๊ด ถีบขา ก้มไปนั่งกับพื้น เวลาไม่พอใจบางอย่าง ใช้วิธีหันเหความสนใจบ้าง กอดบ้าง บางทีก็ได้ผลบางทีก็ไม่ได้ผล ส่วนคุณพ่อบางครั้งก็ใช้การดุเสียงดังหรือตี (ยิ่งแย่ไปอีก) บางครั้งคุณพ่อก็กอดแน่นมากๆไม่ให้ดิ้นจนลูกร้องไห้มากจนเหนื่ิอยและหลับไปเลย
    เพราะเค้ายังพูดไม่ได้ คุณนิหน่ามีคำแนะนำยังไงบ้างคะ
    ขอบคุณค่ะ^^

    • ถ้ายังสื่อสารไม่ได้จะยากหน่อยนะคะ อย่าไปตีเค้าเลยค่ะ เค้ายังเด็กมาก ลองหันความสนใจ หรือลองดูว่าเค้าอยากได้อะไร และบอกเค้าว่าไม่กรี๊ดนะครับ คือบางทีเราต้องตอบสนองเค้าก่อนเค้ากรี๊ดอะค่ะ วัยที่บังสื่อสารไม่ไก้

  12. ติดตามคุณหน่ามาตลอด. ลูกสาวก็อายุห่างน้องแพทไม่กี่วันค่ะ มีอาการเหมือนกันเลย ลองมาคิดดู อาจเป็นวัยเขาด้วยนะคะ เปลี่ยนตลอดเวลา55ช่วงหนึ่งดี. เดี๋ยวช่วงดาร์กตามมาติดๆ แต่ก็พยายามเข้าใจ ทำเหมือนกับคุณหน่าเลย. คือนิ่งก่อน ปล่อยลูกกรี๊ดไปสักพัก. อ่อ. อีกอย่างค่ะ คือครั้งก่อนไปฉีดวัคซีน แกร้องไห้เลยตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าไปหาหมอ. พอถึงที่ก็ไม่วัดไข้ ไม่ชั่งอะไรสักอย่าง. คงกลัวค่ะ. แต่ก็ฉีดกันไปจนได้ทั้งน้ำตา. แต่ครั้งต่อมา. คุณแม่เลยมีการเตรียมฝึกสถานการณ์ค่ะ. คือจำลองให้ลูกเล่นบทหมอกับตุ๊กตาหมี. วัดไข้อะไรเงี้ยค่ะ. แล้วพอวันจริงคือ. โอเคเลย เราบอกทำเหมือนวันนั้นนะลูก แกเข้าใจ อาจมีร้องตอนเข็มจิ้มนิดหน่อย. อาจเจ็บค่ะ. แต่ไม่โวยวายอะไรเหมือนครั้งแรก. คือจบแฮปปี้ค่ะ. เลยเอามาแชร์
    ยาวหน่อยนะคะ. ขอบคุณพื้นที่ดีดีค่ะ.

  13. บ้านนี้ สถานการณ์เอาแต่ใจเริ่มมีมาสักพักค่ะ ตอนนี้น้อง1ขวบกับ2เดือนกว่าๆ การสื่อสารบอกความต้องการด้วยการพูดนี่จบเลยเพราะยังพูดไม่ได้ว่าต้องการอะไร ใช้มือชี้อย่างเดียวค่ะ…อาการเป็นมาสักพักใหญ่แต่ไม่หนักและนานเท่าเมื้อคืนค่ะ เมื่อคืนประมาณเกือบๆตี1ร้องหนักมากมีอาการชี้จะไปอย่างเดียว”แม่บอกมันดึกแล้วลูกตอนนี้เวลานอนเราต้องนอนนะคะ” กอดเค้าและพยายามพาเค้านอน พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่สถานการณ์กลับไม่นุ่มนวลค่ะ เค้ายิ่งร้องหนัก พ่อแม่ยิ่งกอดพูดดีด้วยยิ่งกรี๊ดทิ้งตัวลงกับที่นอนค่ะ คือเค้าต้องการให้แม่เท่านั้นที่เข้าไปกอดเธอค่ะ แต่ทุกคนต้องสนใจ เป็นอยู่ราวๆชั่วโมงหนักขึ้นจนเราคิดว่าไม่ได้ละ เป็นแบบนี้ต่อไปลูกต้องเป็นเด็กเอาแต่ใจตัวเอง ต้องร้องกรี๊ดๆๆดิ้น ทิ้งตัว ทุกครั้งที่ต้องการอะไร…แม่เลยใช้วิธีไม่สนใจ ปล่อยร้อง ตอนแรกลุกเดินแล้วไปนั่งอีกฝั่งไม่สนใจ เธอร้องเบาลงหน่อยแต่ยังร้องอยู่แล้วคลานไปกอดแม่ แม่กอดแล้วพูดดีคราวนี้ร้องหนักอีกรอบค่ะ เลยใช้วิธีปิดไฟ(ไม่มืดมากนะคะพอมองเห็น)นอนนิ่งแกล้งหลับแต่ก็หลี่ตามองนะคะ555…ผลคือร้องหนักมาก ดึงเสื้อแม่ ดึงผมแม่ เหมือนจะพยายามจะให้แม่ลุกขึ้น แม่ใจแข็งนิ่งต่อค่ะ เค้าหยุดแล้วก็ชโงกดูว่าแม่มองอยู่มั้ย คือถ้าเห็นว่าตามองเค้าก็จะเป็นแบบเดิม แม่แกล้งไม่สนใจแล้วบอกเค้าไปว่า “ถ้าลูกยังร้องเราก็จะคุยกันไม่รู้เรื่อง รอหยุดก่อนแล้วค่อยคุย” ยิ่งได้ยินเสียงแม่เท่านั้นแหละค่ะดิ้นทับบนตัวแม่เอาหัวมาดันตัวบ้างนอนทับแล้วร้องไห้หนักมากต่อ บางทีเอามือตีหัวตัวเอง แล้วทำเหมือนจะกัดมือตัวเองด้วยนะคะคือเห็นเอามือไปถูๆที่ปาก แม่ใจแข็งค่ะ เอาไงเอากันปล่อยร้องต่อค่ะ…ณ ตอนนั้นใครก็ห้ามเข้ามาในห้องค่ะ พี่สาวจะเข้ามาเห็นหลานร้องจะมาคุยมาโอ๋ แม่ห้ามค่ะ พ่อก็ให้ไปอีกห้อง คือทุกคนเห็นต้องอดที่จะโอ๋ไม่ได้แน่ๆ แม่บอกเลยค่ะ ถ้าร้องอยู่ห้ามใครมอง ใครพูดด้วย ห้ามโอ๋เด็ดขาด โหดไปรึป่าวก็ไม่รู้นะคะ…ผลสรุป สงสัยเหนื่อยหรืออะไรก็ไม่รู้ หยุดร้อง แล้วก็พยักหน้าสองสามครั้ง มาเปิดเสื้อขอดูดนมค่ะ แม่เลยกอด ให้มาจุ๊บเต้า แล้วพูดดีดี บอกเขา สอนเขาในตอนนั้นค่ะ ไม่รู้ว่าจะเข้าใจบ้างมั้ย แต่ก็พูดไปเรื่อยจนเค้าหลับค่ะ คือไม่รู้ว่าวิธีนี้ถูกต้องมั้ย มันโหดหนักไปมั้ยคะสำหรับลูกแค่ขวบเดียว แต่จุดประสงค์ของแม่คือไม่อยากให้ลูกเอาแต่ใจและอยากจัดการกับพฤติกรรมแบบนั้นของลูกค่ะ ขอคำแนะนำคุณนิหน่าด้วยนะคะ ว่าสิ่งที่แม่บ้านนี้ทำถูกต้องหรือผิดต้องแก้ไขตรงไหนบ้าง ช่วยแนะนำทีค่ะ ลูกคนแรกค่ะแม่ไม่ค่อยมีประสบการณ์ต้องลองผิดลองถูกหลายวิธี…เจอแบบเมื่อคืนเพลียกันทั้งบ้านค่ะ?

    • นิหน่าเองก็แนะนำได้ไม่มากนะคะ แต่ถ้าเป็นนิหน่าก็อาจจะทำแบบเดียวกัน เพราะถ้าไปตอบสนองกับอาการของเค้ามาก วันหลังเค้าก็จะทำอีก ><

ส่งความเห็นที่ หญิง ยกเลิกการตอบ

Please enter your comment!
Please enter your name here