คุณแม่ working mom

4
17986

นิหน่าชอบหาอะไรอ่านไปเรื่อยๆค่ะ พอลูกหลับก็หาข่าวกีฬาอ่านบ้าง ไปหาอ่านเรื่องลูกคนอื่น
โดยเฉพาะในกระทู้ห้องขานเรือนบ้าง หรือมาดูไทม์ไลน์เพื่อนๆ มีปัญหาที่นิหน่าอ่านเจอบ่อยๆ
คือเรื่องของคุณแม่ที่ทำงานเต็มเวลา และต้องฝากลูกไว้กับปู่ย่าตายาย หรือพี่เลี้ยง หรือเอาไป
ฝากที่เนิร์สเซอรี่ แล้วคุณแม่ก็จะมีความรู้สึกผิดว่า นี่เราทอดทิ้งลูกหรือเปล่านะคะ เราควรจะ
ลาออกมาดูแลลูกเต็มเวลาหรือเปล่า จะดีกว่าไหมถ้าเราดูแลลูกเอง

IMG_9102.JPG

นิหน่าเชื่อว่า ดีกว่าแน่นอนถ้าเราสามารถดูแลลูกเองได้เต็มเวลา แต่ด้วยปัจจัย และลักษณะนิสัย
ของคุณแม่แต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนด้วยปัจจัยไม่เอื้ออำนวย ต้องช่วยกันทำงานในครอบครัว
ก็ทำให้ต้องทำงาน ออกจากบ้านแปดโมง กลับบ้านหกโมงก็เหนื่อยใจแทบขาด หันไปมองคุณแม่
ฟูลไทม์ที่เลี้ยงลูกอย่างเดียวก็ได้แต่อิจฉา และเก็บมานอย ส่วนคุณแม่ทำงานอีกแบบคือ ทำเพราะ
ทนไม่ได้ที่จะต้องอยู่บ้านเลี้ยงลูกอย่างเดียว นิหน่าคงเป็นประเภทหลัง เพราะชีวิตทำงานมาตลอด
ตั้งแต่อายุ 18 ปี ทำงานแบบเสาร์อาทิตย์ก็ไม่ได้หยุดก็เคยมาแล้ว เลยค่อนข้างเสพติดงานมากๆ
ตอนนีหน่าท้อง นิหน่าทำงานจนอีกสามวันจะคลอด ถึงได้หยุด พอคลอด กะจะลาสักสามเดือน
ปรากฏว่าเดือนครึ่งก็ทนไม่ได้ ก็ต้องออกมาทำงาน ถามว่าไม่คิดถึงลูกเหรอ บอกเลยว่าคิดถึงมาก
แต่อะไรบางอย่างในใจเราบอกว่า ออกไปทำงานแป๊ปเดียว เพื่อให้อาการซึมเศร้ามันหายไป

ทุกวันนี้นิหน่าเลือกรับงาน เสาร์อาทิตย์ไม่ทำ มีวันหยุดพุธ พฤหัสบ้าง ไม่ค่อยรับงานหลัง 6 โมงเย็น
ยอมรับว่าก็กลัวลูกติดพี่เลี้ยง ก็พยายามบาลานซีวิตให้ดีๆ และให้ความสำคัญกับเวลาที่มีกับลูก
เวลาที่เราเรียกว่าเป็น “เวลาคุณภาพ” ระหว่างเรากับลูก ได้หัวเราะกัน ได้อ่านนิทาน ได้ถามว่า
วันนี้หนูเล่นอะไรบ้าง กินอะไร หลายๆคนอาจจะสงสัยว่า น้องแพทแค่สองขวบ ทำไมนิหน่าชวนคุย
เป็นตุเป็นตะ นิหน่าถามเค้าแบบนั้นจริงๆนะคะ แล้วเค้าก็พยายามหาคำศัพท์มาตอบนิหน่า มันเป็น
การค่อยๆสอนให้เค้าคิดและต่อประโยค เอาคลังคำที่มีอยู่ในสมองของเค้ามาใช้ แรกๆอาจจะตอบ
ไม่ได้ หลังเค้าจะค่อยๆตอบได้ โดยคำตอบก็จะผ่านกระบวนการความคิดของเค้ามาแล้วด้วย 🙂

IMG_9109.JPG

นิหน่ายังโชคดีกว่าแม่ๆที่ต้องทำงานนอกบ้านหลายๆคน ที่งานของนิหน่าไม่ต้องทำเต็มวัน แต่
อยากจะแนะนำว่า ต่อให้เรามีเวลากับลูกแค่ชั่วโมงเดียว แต่ถ้าเราทำให้มันเป็นเวลาคุณภาพ
เวลาที่มีความสุข เวลาที่มีแต่ช่วงช่ืนมื่นกับเค้า เค้าก็จะเข้าใจ และรับรู้ถึงความรักที่แม่มีต่อเค้าได้
โดยเฉพาะเวลาก่อนนอน หากเราไปกล่อมเค้า เล่านิทาน ร้องเพลงกล่อม ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน
อย่างเต็มที่ นิหน่าเชื่อว่าความรู้สึกขาดหายจะไม่เกิดขึ้น ทั้งในใจของทั้งแม่และลูกนะคะ

คุณแม่ท่านไหนทำงานทั้งวัน แบ่งเวลาดูแลครอบครัวและลูกยังไงบ้าง มาแชร์กันได้นะคะ ^^

xxx

Nina

แบ่งปัน
บทความก่อนหน้านี้Review : ผ้าอ้อมเด็ก Baby Love Newborn
บทความถัดไปพ่อแม่สู้สู้
นิหน่า สุฐิตา ปัญญายงค์​ (เรืองรองหิรัญญา) ผู้ประกาศข่าวกีฬา,พิธีกร คุณแม่ของน้องแพทริก และริต้า ปัญญายงค์

4 ความคิดเห็น

  1. ส่วนตัวเป็นคุณแม่ฟูลไทม์ค่ะมาแชร์ในอีกมุมมองหนึ่งคือ การที่เราอยู่กับลูกตลอดเวลาทั้งวันทั้งคืน จริงๆแล้วเครียดมากพอสมควรเนื่องจากลูกจะติดแม่มากๆแบบไปไหนแทบไม่ได้เลย มันเหมือนจะดีนะค่ะลูกติดแม่ แต่ความเครียดมันมากกว่าที่คิดค่ะ อารมณ์ที่เราจะปรี๊ดใส่ลูกก็สูงตามมาด้วย ลูกไม่ติดพี่เลี้ยงด้วยค่ะทั้งที่ก็ช่วยกันเลี้ยงแต่เล็กๆพอโตมายิ่งสองขวบรู้มาก ไม่เอาเลย มีไล่กลับบ้านด้วย55 แต่ด้านอารมณ์จะพัฒนาเร็วมากคือตอบสนองได้รวดเร็ว ทักษะภาษา การพูด จะเร็วมากเพราะเราได้พูดกับลูกตลอด ตอนขวบครึ่งนี่คือมาเป็นประโยค บอกความต้องการได้เลย บางทีแอบอิจฉาคุณแม่ที่ออกไปทำงานเหมือนกัน คือเหมือนได้หลุดไปเป็นตัวเองมีอิสระบ้าง เพราะทางนี้คือ24ชั่วโมงจริงๆมีฉันที่ไหน ข้างกายต้องมีเธอ ต้องขอโทษทีค่ะเล่ามาซะยาวเลย และคุณแม่ฟูลไทม์ท่านอื่นอาจไม่เป็นเหมือนเราก็ได้ค่ะ แต่สุดท้ายไม่ว่าเป็นแม่แบบไหนก็รักลูกไม่แพ้กันเลยจริงไหมค่ะ

  2. อยากได้เทคนิคการพูดกับลูกค่ะ..ที่ว่าพูดกับลูกตลอด..พูดยังไงค่ะ..ลูกสองขวบครึ่งกว่าแล้ว..ยังพูดเป็นประโยคไม่ได้ค่ะ..ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ..ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

    • พูดเหมือนพูดปกติเลยค่ะ เล่านิทาน ชี้ให้ดูนู่นนี่ เวลาจะพาเค้าไปทำอะไรก็บอกเค้า เช่นเราอาบน้ำ เรากินข้าว เราเดินเล่น แล้วคอยถามเค้ากระตุ้นให้เค้าพูดค่ะ

ส่งความเห็นที่ Kai ยกเลิกการตอบ

Please enter your comment!
Please enter your name here